เป็นที่ทราบกันดีว่ากรดอะมิโนที่มีชื่อว่า homocysteine นั้นเกี่ยวโยงกับการเพิ่มอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจและความจำเสื่อม มีรายงานการศึกษาในปี 2010 ( Smith AD, et al. Homocysteine-lowering by B vitamins slows the rate of accelerated brain atrophy in mild cognitive impairment: a randomized controlled trial. PLoS One 2010;5(9):e12244)
ว่าการทานวิตามินB เสริม ( โดยเฉพาะ B6, B12 , folic acid) ช่วยลดการฝ่อตัวของสมองได้
นอกจากนี้ยังมีอีกรายงานการศึกษา ( de Jager CA, et al. Cognitive and clinical outcomes of homocysteine-lowering B-vitamin treatment in mild cognitive impairment: a randomized controlled trial. Int J Geriatr Psychiatry. 2011 Jul 21 [Epub ahead of print] )
พบว่าคนที่ทานวิตามินB เสริมยังทำให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ล่าสุดมีรายงานการศึกษา( Douaud G, et al. Preventing Alzheimer’s disease-related gray matter atrophy by B-vitamin treatment. PNAS published 20 May 2013)
ที่ต่อยอดจากการศึกษาทั้งสองฉบับก่อนหน้านี้ และพบว่าการทานวิตามิน B เสริมยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ช่วยป้องกันสมองส่วนนอก grey matterมิให้ถูกทำลาย เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มยาหลอก พบว่ามีผลลดการทำลายถึง 90%
ในผลการศึกษาดังกล่าวได้สรุปเอาไว้ว่า :
1) วิตามิน B12, B6 , กรดโฟลิค มีผลในการลดอาการสมองฝ่อตัวในกลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับโฮโมซีสเตอีนมากเกินไป
2) ทั้งยังมีผลให้ระบบการทำงานของสมองมีประสิทธิภาพดีขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว
3) และช่วยลดความเสียหายของเนื้อสมองในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ ต้องยอมรับความจริงและข้อจำกัดทางกฏหมาย ดังนั้นหลักฐานเท่าที่มีตอนนี้ พอจะสรุปได้เพียงว่า “การทานวิตามิน B เสริม มีผลช่วยในผู้ป่วยที่มีอาการความจำเสื่อมขั้นต้นๆ และมีระดับโฮโมซีสเอีนสูง ซึ่งในการศึกษานี้ใช้เกณฑ์วัดปริมาณโฮโมซิสเตอีนที่ 11 µmol/L”
แปลและเรียบเรียงจากงานเขียนของ นายแพทย์ John Briffa
สาระโดยเวลเนสสองพันสิบสอง